พลังของเครื่องมือทางด้านการทำการตลาดบน Digital มีอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือการเข้าถึงคนที่เป็นลูกค้าเรา หรือ มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าเราจริงๆ
ซึ่งด้วยข้อมูลที่มหาศาลที่มีทำให้เราสามารถ กรอง คัดสรรค์ เลือก ลูกค้าที่ใช่สุดๆ สำหรับเราจริงๆได้
โดยการสร้างกลุ่มเป้าหมายในภาพใหญ่ของ Digital มีอยู่ 3 แบบหลักๆ คือ
1> Core หรือ Target Audiences: กลุ่มเป้าหมายหลักที่เราต้องการจะเข้าถึง เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่เรารู้สามารถคัดกรองเขาได้ด้วยข้อมูล 4 กลุ่มนี้
Demographic (อายุเพศ อาชีพ ฯลฯ)
Location (ตำแหน่งที่เขาอยู่)
Interest (ความชอบความสนใจ)
Behaviour (พฤติกรรม เช่นใช้มือถือเข้าเว็บ)
หรือเรียกง่ายๆ ว่า กลุ่มเป้าหมายที่เราใช้ๆ กันการตลาดทั่วไปนั่นแหละ (จริงๆ แล้ว facebook กับ Google จะลงในรายละเอียดได้มากกว่านี้อีกเช่น คำว่า สนใจอ่านเนื้อหาแบบไหน หรือกำลังสนใจสินค้าอะไร หรือเพื่อนกำลังจะมีวันเกิดอีก 7 วัน)
แต่ Digital ไม่ทำให้คุณหยุดตั้งกลุ่มเป้าหมายแค่นั้น อีก 1 กลุ่มเป้าหมายที่เจ๋งมากๆ และมีประโยชน์สุดๆ คือกลุ่มเป้าหมายที่เรียกว่า
2> Custom Audiences หรือ Remarketing List : กลุ่มเป้าหมายที่เรารู้จัก กลุ่มนี้อธิบายง่ายๆ คือ เรารู้จักเค้าระดับหนึ่ง เค้ามีการเข้ามาปฏิสัมพันธ์กับเราในระดับหนึ่ง
ตัวอย่าง Custom Audiences ที่ใช้ได้ เช่น
แบบ Prospect หรือมีแนวโน้มสนใจสินค้า เช่น
คนดูวีดีโอของเรา ถึงกี่ %
คนเข้าเว็บเราหน้าต่างๆ (สามารถแยกได้เลยว่า เข้าหน้าไหน)
คนกด ปุ่ม Add to Cart
คน engage เนื้อหาในเพจเรา
ฯลฯ
แบบ Repeat Customers หรือเป็นลูกค้าแล้ว เช่น
คนที่เรามีเบอร์โทรเขา
คนที่เรามีเมลเขา
คนที่กดซื้อของและจ่ายเงินแล้ว
ซึ่งถ้าเรามีเบอร์หรือ Email facebook กับ Google จะเอาข้อมูลไปจับว่า mail นี้หรือเบอร์นี้เป็น user คนไหน แล้วยิงโฆษณาไปหาคนนั้น
ซึ่ง Custom Audience มีประโยชน์ในหลากหลายรูปแบบ เช่น เราสามารถกรองเอาคนที่ซื้อไปแล้วออกไม่ให้เห็นโฆษณาได้ หรือ เอาคนที่เข้าเว็บหน้านี้แต่ไม่ซื้อ แล้วยิงโฆษณาไปหาเขาอีกที
นอกจากนั้น Custom Audiences ยังมีประโยชน์สำคัญอีก 1 อย่างซึ่งอันนี้พิเศษมาก เรียกว่า
3> Look a like หรือ Similar Audiences หมายถึง กลุ่มคนที่มีความคล้ายกับ Custom Audience ของเรา โดยระบบของ Google หรือ facebook จะวิ่งไปหาว่า Custom Audience แบบนี้ มีลักษณะนิสัย อายุเพศ หรือความชอบแบบไหน แล้วหาคนคล้ายๆ กันเหล่านั้นมาเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามี Custom Audiences ของคนซื้อแล้ว เราสามารถให้ระบบช่วยหากลุ่มเป้าหมายคล้ายๆ กับคนที่ซื้อของกับเราได้ (วิธีการเดี๋ยวค่อยมาเล่าให้ฟัง)
โดย Similar Audiences มีประโยชน์มากในการหาลูกค้าใหม่ๆ ที่มีความคล้ายกับลูกค้าเดิมของเรา ทำให้เราไม่ต้องไป ทดสอบหากลุ่มเป้าหมายหลายๆ แบบใหม่ๆ ช่วยลดขั้นตอนไปได้ระดับหนึ่ง
สรุปง่ายๆ ก็คือ
Core หรือ Target – คนที่เราตั้งเป้าหมายอยากคุยด้วย
Custom หรือ Remarketing – คนที่เรารู้จักอยู่แล้ว
Look A like หรือ Similar – คนที่คล้ายๆ กับคนที่เรารู้จักอยู่แล้ว
และถ้าเรารู้จักทั้ง 3 กลุ่มเป้าหมายนี้ดีพอ เราสามารถนำเอากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ มาวางแผนการตลาด Digital แบบเป็นขั้นตอนได้มากมายมหาศาล บานตะไท
งงอะไรสงสัยอะไร ถามได้ที่เพจครับ